EP13 - This is Marketing
สรุปหนังสือ This is Marketing วิชาการตลาดที่ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัยแบบฉบับ Seth Godin
วิชาการตลาดที่ “ไม่มีสอน” ในมหาวิทยาลัยแบบฉบับ Seth Godin
สรุปไอเดียสำคัญเรื่องการตลาด สร้างแบรนด์อย่างแข็งแกร่งแบบ Seth Godin จากหนังสือ This is Marketing (2018)
Seth Godin คือหนึ่งใน “Godfather” ของโลกการตลาด เขียนหนังสือขายดีมาแล้วมากกว่าสิบเล่ม ตั้งแต่ This is Marketing, Purple Cow, Permission Marketing ฯลฯ
“ลูกค้าไม่รู้หรอกว่าอยากได้ [product] อะไร แต่เค้ารู้ว่าฝันของพวกเค้าคืออะไร” หน้าที่ของนักการตลาดคือการเติมเต็ม “ความฝัน“ เหล่านั้น
นักการตลาดคืออาชีพของผู้ที่อยากเปลี่ยนแปลงสังคม เปลี่ยนชีวิตผู้คนในทางที่ดีขึ้น เป็นเรื่อง “Mindset” มากกว่าชื่อตำแหน่งบนนามบัตร
“Marketing” ในมุมมองของ Seth คือ “Work that matters for people who care” เราทำงานที่มีความหมายเพื่อช่วยเหลือใครสักคนหนึ่ง
แบรนด์จะแข็งแกร่งขึ้นได้ต้องสร้าง “Culture” และ “Tribe” ยุคนี้เราสร้างวัฒนธรรมได้ง่ายขึ้นเยอะ Seth บอก “แค่คุณมี Keyboard ก็ทำได้แล้ว” เหมือนการเขียนบทความนี้
“Doing is Becoming” ไม่ใช่เขียนหรือพูด แต่ต้องลงมือทำ “Brand” คือคำสัญญาที่เราพูดแล้วทำได้จริง การสร้างแบรนด์คือการ “Fulfill” ความคาดหวังของลูกค้าที่เชื่อในเรา
McDonald’s สัญญาว่าทุกคนจะได้ความ Fast & Convenience ตั้งแต่เปิดร้านวันแรกในปี 1940 ทำมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน แมคไม่เคยสัญญาว่าเข้าไปกินแล้วจะอร่อย แต่ French Fries อร่อยมาก ฉันหิววว 555+
Seth ยกตัวอย่าง ถ้าลูกค้ามาพักที่โรงแรมของเรา หาป้าย Logo ไม่เจอ แล้ว ”บอกไม่ได้” ว่าตัวเค้าอยู่ที่โรงแรมอะไร? แปลว่า แบรนด์เราพังแล้ว เราไม่มีแบรนด์ 555+
“Brand ไม่ใช่แค่ Logo” แต่แบรนด์คือทุกอย่างที่เราสื่อสารออกไป และทำมันอย่างต่อเนื่อง เราวัดมูลค่าแบรนด์จากเงินที่ลูกค้าพร้อมจ่ายมากขึ้น vs. สินค้าคู่แข่งอื่นๆ
ทำให้ลูกค้า “ดีใจ” ที่ได้เห็นคอนเทนต์จากเรา ไม่ใช่เห็นแล้วสร้างแต่ความ “รำคาญ” Attention ทุกวันนี้ราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ อย่าใช้โอกาสแบบสิ้นเปลือง
Seth บอกว่าทุกอย่างเริ่มต้นจาก "Empathy" ถ้าเราไม่เข้าใจลูกค้า ไม่รู้ว่าฝันเค้าคืออะไร อย่าเรียกตัวเองว่านักการตลาด ทำไมต้องแรงด้วย แง๊ 555+
“Everyone is NOT the goal. Someone is the goal.” ต้องเลือก Target ให้ชัด ยิ่งชัดเท่าไหร่ยิ่งดี ตอบให้ได้ว่าแบรนด์เราเกิดมาเพื่อใคร
สร้าง “True Fan” หรือคนที่ชอบสินค้าและบริการของเราจริงๆแค่ 1,000 คน บริษัทเราก็อยู่ได้สบายๆแล้ว แต่ถ้าได้หนึ่งแสนคน Seth เรียก “Homerun”
ลดราคา? ลดทำไมก่อน Seth บอกกูจะร้องเพลง “Tell me why” แล้ว 555+ ถ้าแบรนด์เราไม่ตอบโจทย์ลูกค้าคนนั้น ไม่เป็นไรเลย เพราะเราเกิดมาเพื่อ Someone, not everyone
โฟกัสที่คำว่า “ดีขึ้น” ไม่ใช่ “ใหญ่ขึ้น” ทำเพื่อคนที่เค้าต้องการเราในชีวิต เดี๋ยว True Fan ช่วยเราทำการตลาดที่เหลือต่อเอง เช่น การบอกเล่า แชร์ต่อ พลังของ Word of Mouth
This is Marketing (2018) เล่มนี้แอดอย่างชอบ เข้าใจเรื่องการตลาดขึ้นเยอะเลย อ่านจบตามหาแต่ True Fan สร้าง Tribe เท่านั้น 555+
แต่ถ้าเพื่อนๆไม่มีเวลาอ่าน มาลองฟัง Podcast นี้ของ Seth สรุปให้ฟัง ครบจบใน 46 นาที เย้
เดือนหน้า Seth กำลังจะเปิดตัวหนังสือใหม่ This is Strategy (2024) แอดเตรียมเสียเงินแล้ว 555+ รออ่านสรุปได้เลยครับทุกคนนน
PodDash - One Lesson At A Time 💯
