EP21 - Suddenly Talented
Suddenly Talented วิธีพัฒนาตัวเองแบบเก่งปุบปับด้วย ECS ของ Sean D'Souza อ่านโพสต์นี้จบเก่งปุบปับ

Suddenly Talented วิธีพัฒนาตัวเองแบบเก่งปุบปับ อ่านโพสต์นี้จบเก่งปุบปับ
ปีที่แล้วแอดได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขียนไว้สิบกว่าปีแล้ว แต่เนื้อหายังใหม่อยู่เลย ใจความของหนังสือคือ Framework ชื่อ “ECS” สำหรับการพัฒนาตัวเองแบบ “เก่งปุบปับ”
ตอนอ่านจบ ไฟการเรียนลุกโชน สว่างพอๆกับพระอาทิตย์ เดี๋ยวๆ 🤣 เต็มสิบไม่หัก แนวคิดเรื่อง “Doable Greatness” คืออันเดียวกันกับ Generalist วิถีเป็ดโปรชัดๆ 555+
สรุปข้อคิดสำคัญที่แอดได้จากหนังสือ “Suddenly Talented” ของ อ. Sean D’Souza
ข้อแรกมาแบบ Deepๆ 555+ ทุกอย่างในโลกนี้คือ “Perception“ สิ่งที่เราเห็นแล้วเชื่อ สิ่งนั้นคือความจริง (อย่างน้อยก็สำหรับเรา)
“Talent” หรือพรสวรรค์เกิดจาก Perception เป็นแค่ “ภาพลักษณ์” ที่สมองสร้างขึ้นมา ถ้าใครยังไม่ Get เดี๋ยวแอดอธิบายให้ฟัง
คนๆหนึ่งถูกมองว่า “เก่ง” แค่เพราะเค้าทำบางอย่างได้ “ก่อน” ที่คนอื่นจะทำได้
ถ้าวันนี้มีคนเขียน Prompt (AI) เป็นก่อนคนอื่น สังคมจะมองว่าคนนั้น “เก่ง” แต่ถ้าวันนี้ทุกคนเขียน Prompt เป็นเหมือนกันหมด Prompt จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ความเก่งจะ “สลาย” ไปทันที ล้ำลึก
ตอนเด็กๆ เราจับช้อนตักข้าวใส่ปากเองได้ ใครเห็นก็บอกว่าเรา “เก่งมาก” แต่พอโตมา ยังไม่เคยเจอใครชมแอดว่า “ใช้ช้อนเก่ง” บ้างเลย ยั๊งงง 555+
ทั้งๆที่การจับช้อนก็คือ Skill แบบหนึ่ง แต่พอทุกคนทำได้เหมือนกันหมด สังคมเลยไม่มองมันเป็น Skill อีกต่อไป
โลกเราแปลกมาก ทุกคนเดินได้ แปลว่า “การเดิน” ไม่ใช่ Skill ถ้าทุกคนเขียน Code ได้ แปลว่า “Coding” ก็ไม่ใช่ Skill เช่นกัน
บางอย่างถูกมองว่าเป็นทักษะ เพราะมีคนส่วนน้อยทำได้ และคนส่วนใหญ่ยังทำไม่ได้ แปลกแต่จริง ทุกอย่างคือ “การรับรู้“ 555+
ทักษะต่างๆและพรสวรรค์คือ “Perception” และการรับรู้ของมนุษย์เกิดจาก “Comparison” ต้องมีคนอื่นให้เทียบ ถึงจะบอกได้ว่าใครเก่งหรือไม่เก่ง
The Kybalion (1908) เล่าเรื่อง “Polarity” บอกว่าความดีกับความไม่ดีต้องดำรงอยู่คู่กันเสมอ เหมือน Yin-Yang ในเต๋า เรารู้ว่าสิ่งหนึ่งดี เพราะมีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ดี เกิดขึ้นใน Reality เดียวกัน ความเก่งและไม่เก่งก็เช่นกัน ล้ำลึก ขนลุกเลยแอด 555+
แปลว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จ เราไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด แต่ต้องเก่งขึ้นทุกวัน ทำบางอย่างให้ได้ “ก่อน” คนอื่น หรือต้องทำได้ “ดีกว่า” ค่าเฉลี่ยที่สังคมใช้เป็นเกณฑ์
นอกเรื่องแป๊บ แค่อ่าน PodDash วันนี้จบก็เก่งขึ้นแล้ว ยั๊งงง 555+
ถ้าอยาก “เก่ง” ต้องหาให้เจอว่าสังคมมองคนเก่งเป็นแบบไหน หาให้เจอว่าทักษะอะไรที่สำคัญจริงๆ? แต่ส่วนตัวแอดคิดว่า การหาคำตอบว่าคน “ไม่เก่ง” เป็นแบบไหน ง่ายกว่าคำถามข้อแรกเยอะเลย
Rick Rubin ตำนานสาย Creative บอกว่า “การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นโคตรไม่แฟร์เลย” เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานไม่เท่ากัน แต่ Sean บอกเราทำสิ่งนี้กันทุกวัน เรา “หยุดสมอง” ไม่ให้เทียบกับคนอื่นไม่ได้
ความจริงมีแค่ตัวเราเอง “เมื่อวาน” เท่านั้นที่เป็น “Fair Comparison” เพราะเราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เปลี่ยนตัวเองได้เสมอ “พลัง” อยู่ในมือเราตั้งแต่แรก Stoic ก็มา 555+
แล้วเราจะเก่งขึ้นกว่านี้ได้ยังไง? สิ่งแรกที่เราต้องการคือ “เวลา”
อยากมีสุขภาพดี ต้องหาเวลาออกกำลังกาย อยากเก่งขึ้นทุกวัน ต้องหาเวลาอ่านหนังสือ เรียน เขียน แชร์
ถ้าเรา “หา” เวลาได้แล้ว ถัดไปคือการ “เลือก” ว่าจะใช้เวลานั้นกับกิจกรรมใด
Ali Abdaal บอกว่าสิ่งที่เรา “เลือก” ทำแบ่งได้สองแบบคือ Maintenance และ Progression
- Maintenance [M] คือกิจกรรมที่เราทำเพื่อรักษาสภาพชีวิตให้ดี “เท่าเดิม” เช่น กินข้าว พักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง Binge Watch ซีรีส์ที่เราชอบ
- Progression [P] คือสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราไป “ข้างหน้า” ได้ไกลขึ้น เช่น ตั้งใจทำงาน เข้ายิม อ่านหนังสือ เรียนออนไลน์ ฝึกเขียนทุกวัน เมื่อวานแอดเปิดสอนฟรีคอร์ส “Writing 101” นะ รู้ยังๆ 555+
ถ้าชีวิตอยู่ในโหมด M ตลอดเวลา ชีวิตเหมือนย่ำอยู่ที่เดิม แต่ถ้าเปิดโหมด P เรียนรู้ตลอดเวลา ก็มีโอกาส Burn Out สิ่งที่เราต้องทำคือ “Balance”
“Work-Rest Relationship” การทำงานจะหมดความหมาย ถ้าเราไม่ได้พัก แต่ถ้าพักตลอดโดยไม่ทำงานเลย ชีวิตก็ไม่มีความหมายเช่นกัน
ถ้าเราหาเวลาได้แล้ว รู้ว่าสิ่งที่อยากทำคืออะไร Sean บอกที่เหลือ “ง่ายเหมือนขี้” เย้ 555+
แค่รู้จัก ECS
: Energy, Confidence, Skill สามคำ เก่งขึ้นได้ทันที แบบปุบปับ! แต่วันนี้เขียนครบ 20 ข้อ หมดโควต้าโพสต์นี้แล้ว 555+
อยากเข้าใจ ECS อย่างถ่องแท้ อ่านบทความเต็ม Suddenly Talented ต่อได้ที่บล็อกนี้ อ่านจบ คุ้มค่าเน็ต ลุยง้าบ

“เพราะชีวิตคือการได้รู้ ได้ทำ และสร้างสิ่งที่ดี เก่งขึ้นทุกวัน แต่ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด” - Generalism
Fun Fact - Sean เป็นนักวาดการ์ตูน ที่รู้เรื่องการตลาดนิดหน่อย เขียนบทความได้นิดหน่อย ทำเว็บไซต์เป็นนิดหน่อย แต่ชีวิตแฮปปี้สุดๆ เขียนหนังสือกำไรปีละ 20 ล้านบาท ยั๊งงง 555+ กราบท่านอาจารย์
ปล. เพื่อนๆอ่านจบแล้ว ชอบบทความนี้ไหม ได้ไอเดียใหม่ๆหรือเปล่า Comment บอกแอดได้น๊า ขอบคุณที่ติดตามอ่าน PodDash นะค้าบ
PodDash
- One Lesson At A Time 💯