EP11 - Day Dreaming
สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตมนุษย์ทุกคนคือการได้หยุดคิด และไม่ถูกสมองพยายามดึงเราให้หลุดจากโลกความจริงทุกๆสองนาที

สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตมนุษย์ทุกคนคือการได้ “หยุดคิด“ และไม่ถูกสมองพยายามดึงเราให้ "หลุด" จากโลกความจริงทุกๆสองนาที
ถ้าใครรู้สึกว่า Distraction ในโลกนี้มันเยอะเหลือเกิน ทั้ง Email, Social Media ตอบแชทจนเราไม่สามารถทำงานเสร็จได้เลย PodDash วันนี้มีคำตอบ
สรุปข้อคิดที่จะช่วยให้เรา “Focus” ได้ดีขึ้น จากซีรี่ส์ The Mind Explained SS2
Distraction คือหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ [Spoiler] และมันไม่ได้เพิ่งเกิดตอนมี Smartphone และ Social Media
Hugo Gernsback ได้คิดค้น “The Isolator” ในปี 1925 หมวกเหล็กต่อท่อ Oxygen ที่สามารถลดเสียงจากภายนอกได้มากถึง 90% หวังให้ตัวเค้าทำงานได้มากขึ้น
แต่พอเอามาใช้งานจริง Hugo พบว่าแม้จะนั่งทำงานที่สถานที่ที่เงียบที่สุด แต่เสียงยังดังอยู่ดี อ้าว 555+ ไม่ใช่เสียงรถ เสียงแตร แต่เป็นเสียงที่เกิด “ภายใน” หัวของเราเอง
“Even if supreme quiet reigns, you are your own disturber practically fifty percent of the time.” - Hugo Gernsback (July 1925)
งานวิจัยสมัยใหม่คอนเฟิร์มสิ่งที่ Hugo เขียนไว้เมื่อร้อยปีที่แล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของ “Interruptions” ที่พวกเราเผชิญอยู่ตอนนี้เกิดขึ้นที่สมอง “It’s self-initiated”
เราเรียกสิ่งนี้ว่า “Daydreaming” หรือฝันกลางวัน เป็นหนึ่งใน Survival Mechanism เพราะเราอยากจะหนีออกจากโลกความจริงตลอดเวลา อยู่ในฝันสบายกว่าอยู่ในความจริง
เทคโนโลยีเป็นแค่เครื่องมือที่ช่วยให้สมองเรา Distract ตัวได้ง่ายขึ้น เปิด Social Media เมื่อไหร่ก็ “Daydreaming” ได้เลย ฮอร์โมนสูบฉีดเหมือนอัปยา ง่ายจนงง ยั๊งงง 555+
แล้วเราฝันกลางวันบ่อยแค่ไหน? งานวิจัยบอกว่าเราเข้าโหมดนี้ทุกๆ 2-3 นาที รวมกันประมาณครึ่งหนึ่งของเวลาทั้งหมดที่เราตื่นอยู่ สอดคล้องกับที่ Gernsback เขียนไว้ในปี 1925
Claim ที่บอกกันว่า “Attention” ของมนุษย์ในปัจจุบันลดลงน้อยกว่าปลาทอง? มนุษย์ยังพอวัดได้ แต่ไปวัด Attention ของปลาทองยังไงก่อน เอาจริงๆยังไม่มีงานวิจัยไหนยืนยันสิ่งนี้ได้เลย Content อะเนอะ 555+
Attention ไม่ใช่คอนเซ็ปต์ที่วัดได้ง่าย นักวิจัยเลยพยายามศึกษาตัวแปร “Working Memory” แทน ซึ่งผลวิจัยพบว่า 30 ปีที่ผ่านมา มันไม่ได้ลดลงเลย ยังเท่าๆเดิมตั้งแต่ก่อนมี Smartphone
Cal Newport ผู้เขียนหนังสือ Digital Minimalism (2019) เชื่อว่าพวกเราไม่ได้เสียความสามารถในการ Focus แต่เราแค่ไม่ได้ฝึกฝนทักษะนี้เท่าไหร่ “Out of practice”
ปัญหาที่แท้จริงคือ “ความอดทน” พวกเราน้อยลง เราไม่ทนกับสิ่งเร้าภายนอก อยากได้ต้องได้ ไม่ทนกับสิ่งที่มันยากลำบาก วิ่งตามหาแต่ความสุขชั่วคราว เสพย์ติด “Cheap dopamine”
แล้วเราจะฝึก Focus ได้ยังไง? คำตอบที่ดีที่สุดคือการฝึกอยู่กับปัจจุบัน “Practice being present” หนึ่งในหนังสือที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุดในโลกคือ The Power of Now (2004) ของ Eckhart Tolle
นั่งสมาธิ ฝึกการหายใจ หรือจะฝึกฝนทักษะแบบ “Craftsman” ลงมือทำ สร้างผลงานบางอย่างที่มีความหมาย เช่น ทักษะงานไม้ ทักษะการเขียน i.e. กิจกรรมที่ต้องใช้ “มือ” ในการทำงาน
แต่ข้อเสียของการมี Focus มากเกินไป จะทำให้เรา “เสีย” ความสามารถในการรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราได้เช่นกัน ต้องหาจุดสมดุลระหว่าง Work vs. Wander พักให้สมองได้ Daydream บ้าง
“You have power over your mind, not outside events. Realize this and you will find strength.” - Marcus Aurelius
ถ้าเราควบคุมความคิดของตัวเองได้ เมื่อนั้นเราจะพบกับพลังที่แท้จริง และพลังนี้อยู่ในตัวเราทุกคนอยู่แล้ว “Your mind” นึกถึง Star Wars ภาค “The Force Awakens” เยย 555+
สรุป 3 เรื่องที่อยากให้ทุกคนได้จาก PodDash นี้
- Being Present ฝึกอยู่กับปัจจุบัน
- Self-Control ฝึกควบคุมตัวเอง
- The Power of Your Mind พลังความคิดคือพลังธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ใช้มันเพื่อสร้าง ไม่ใช่ทำลาย (ชีวิตของเราเอง) ทำไมเท่อย่างนี้ 555+
อ้างอิงจาก The Mind Explained SS2 E1 “How to Focus” บน Netflix
PodDash
- One Lesson At A Time 💯
ปล. ส่วนตัวแอดยกให้ “How to Focus” เป็นตอนที่ดีที่สุดของซีรีส์ The Mind Explained เลย เข้าใจเรื่อง Distraction มากขึ้น และรู้วิธีที่จะทำให้เรา Focus ได้มากขึ้น ต้องฝึกฝน เย้